12 November 2007

ความจริงของโลก

ธรรมะ แปลว่า ทรงไว้ซึ่งความจริง ทรงไว้ซึ่งความดี
เราต้องมองความจริงที่มีอยู่รอบตัว ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอน

มองให้เห็นเป็นความจริง

ความไม่เที่ยง คือ อนิจจัง
ความทุกข์ มีความทุกข์อยู่ตลอดเวลา คือ ทุกขัง
และ สลายไปในที่สุด คือ อนัตตา

สิ่งของ คน และ สัตว์ เพื่อน พ่อ แม่ ญาติ คนรัก แล้วเป็นไปตามนี้หมด

ก่อนเราจะมาอยู่ที่นี่ มันก็ไม่มีบ้าน มันเป็นทุ่ง มันมีหนองน้ำ มันมีต้นไม้ใหญ่ บัดนี้ สิ่งเหล่านั้นมันหายไป กลายเป็นบ้าน เป็นถนน แล้ว เราคิดว่า มันจะอยู่ต่อไปอย่างนี้หรือ ซักวันมันก็พัง

พัง พัง พัง พังไม่มีเหลือ ตัวเราก็พัง เพราะตัวมันไม่ใช่เรา เพราะมันพังอย่างนี้ ปู่ก็พัง ตาก็พัง หลวงพ่อ พระพุทธเจ้ายังร่างกายพังไปแล้วเลย เขาพัง ของพังให้ดูกันเต็มหมด แล้วร่างกายนี้จะไม่พังอย่างไร

ตาย ตาย ตาย เราตายแน่ ร่างกายตายแน่ และมันก็มีทุกข์ อยู่ก็ทุกข์ หิวก็ทุกข์ ง่วงก็ทุกข์ ร้อนก็ทุกข์ อยากได้แล้วไม่ได้ก็ทุกข์ มันทุกข์หนอ แล้วมันก็ตายหนอ ตายกันหมด ตายหมดโลก เพียงแต่มันมีคนที่มีแขนมีขาเหมือนกันเกิดมาต่อ เราเลยนึกว่า คนมันอยู่กันตลอด แต่จริงๆ ตายกันหมด เราก็ตาย ความตายเป็นวันที่จะมีแน่นอนสำหรับเรา และทุกๆคน

ความตายเป็นของแน่ ความตายเกิดขึ้นแก่ฉันแน่ ความตายมาถึงฉันแน่
ความตายเป็นของแน่ ความตายเกิดขึ้นแก่ฉันแน่ ความตายมาถึงฉันแน่
ความตายเป็นของแน่ ความตายเกิดขึ้นแก่ฉันแน่ ความตายมาถึงฉันแน่

แล้วความตายก็มีอยู่กับฉันทุกวันตลอดเวลา ลมหายใจ ก็ตายดับไป อาหารกิน ก็ตายย่อยไป น้ำดื่ม ก็ตายขับออกไป เซลก็ตายพลัดเปลี่ยนไป กายนี้มันตายอยู่ตลอดนี่นา

เรากำลังเดินสู่ความตาย แล้วขณะเดินมันก็ตายอยู่ตลอด ถ้าไม่ต่อเมื่อใด ก็ตายเมื่อนั้น

ความตายเป็นของแน่ แท้จริง

No comments: